ผู้ว่าฯ กำแพงเพชร ร่วมประชุมรับมอบแนวทางการดำเนินงานทุนพระราชทาน ม.ท.ศ. จากปลัดกระทรวงมหาดไทย

วันที่ 28 ธันวาคม 2566 เวลา 10.00 น ที่ห้องภานุมาศ ชั้น 10 โรงแรมรอยัล ริเวอร์ กรุงเทพมหานคร นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมมอบแนวทางการดำเนินงานทุนพระราชทาน ม.ท.ศ. ของผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชรและทุกจังหวัดทั้งประเทศ พร้อมรองผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รับมอบหมาย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมรับฟังการมอบแนวทาง
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันนี้เป็นโอกาสดีที่ได้มาพบกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดทุกท่าน ซึ่งมีโอกาสที่ดีของชีวิตพาน้อง ๆ ทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร (ม.ท.ศ.) มาเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ต่อเด็กไทยทุกคนให้ได้รับสิ่งที่ดี คือ “ความรู้” ได้มีโอกาสศึกษาหาความรู้ ไม่เพียงแค่เด็กยากจน แต่ยังพิจารณาจากความรู้ความสามารถและลักษณะนิสัยใจคอของเด็กด้วย ในฐานะที่เราเป็นข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงต้องเอาใจใส่กับเรื่องการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการที่เราจะช่วยทำให้เด็กของเรามีโอกาสที่ดีในชีวิต จำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องช่วยกันประคับประคอง เพื่อให้มั่นใจว่าเราดูแลเด็กอย่างไม่ตกหล่น การได้รับทุนเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่จุดสำคัญของโอกาสที่ดีในชีวิต คือ หลังจากที่เด็กได้รับทุนจะได้สำเร็จการศึกษาและได้ดำเนินชีวิตตามปกติ ซึ่งเด็กในวันนี้อาจเรียนดีประพฤติดีแต่อนาคตอาจจะเปลี่ยนก็ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องเอาใจใส่ดูแล ประคับประคอง ช่วยเหลือให้กำลังใจกับเด็กนักเรียนซึ่งจะทำให้ลูกหลานของเราได้อยู่ในลู่ทางที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลูกหลานทุน ม.ท.ศ. ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

“ตนได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับคุณครูผู้ดูแลน้อง ๆ นักเรียนทุน ม.ท.ศ. ได้ทราบว่าผู้ว่าราชการจังหวัดหลายจังหวัดได้ดูแลเอาใจใส่ชีวิตของน้อง ๆ เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการจัดยานพาหนะไปกลับโรงเรียน การสร้าง/ซ่อมแซมบ้านที่อยู่อาศัยของนักเรียนและครอบครัว ซึ่งทั้งหมดมีความเกี่ยวเนื่องตามระบบฐานข้อมูล ThaiQM ตามภารกิจของกระทรวงมหาดไทย เพราะทุกชีวิตมีความสำคัญ เราต้องดูแลลูกหลานของเราให้ดี ไม่เพียงแต่เด็กนักเรียนทุน ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดต้องดูแลการศึกษาของเด็กทั้งระบบทั้งเชิงลึกและเชิงกว้าง ต้องลงรายละเอียดวางแผนการทำงานด้วย ซึ่งการเอาใจใส่เด็กเริ่มตั้งแต่การเยี่ยมเยียนพบปะพูดคุยเด็กนักเรียน ซึ่งจะก่อให้เกิดสิ่งที่ดีในชีวิต การที่ไปเยี่ยม คือ ได้มีโอกาสในการสืบค้นหาข้อมูล ในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” อันเป็นหลักการทำงานที่จำเป็นของชาวมหาดไทย นอกจากนี้ เราต้องมีข้อมูลของเด็กนักเรียนทุน โดยมีครูผู้ดูแลนักเรียน ตลอดจนกำนันผู้ใหญ่บ้าน เป็นฐานข้อมูลให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อติดตามความคืบหน้า สภาพชีวิตความเป็นอยู่ของเด็กและครอบครัว การมีข้อมูลของเด็กนักเรียนทุนจึงมีความสำคัญและจำเป็น เพื่อจะเข้าไปดูแลให้การช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน และยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้ ซึ่งสิ่งที่เป็นยาวิเศษหรือองค์ความรู้ให้แก่เด็กดังเช่นหนังสือสารานุกรมไทย การมอบให้อย่างเดียวไม่พอต้องจัดกิจกรรมส่งเสริมให้เกิดการอ่าน การเรียนรู้ ทำสิ่งที่ดีที่จะเป็นประโยชน์ต่อน้องเด็กนักเรียนและเยาวชนของเราด้วย” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงต้น
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่ออีกว่า ครอบครัวของเด็กนักเรียนทุนก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการเรียนการศึกษาของเด็ก จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดให้ความสำคัญด้วยการลงไปให้กำลังใจครอบครัว และเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชน นำเอาสิ่งที่ดีไปทำให้พี่น้องประชาชน ช่วยกันธำรงเกียรติภูมิของชาวมหาดไทย เอาใจใส่ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดเลือกเด็กนักเรียนทุน ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องเป็นประธานในการคัดเลือกเด็กนักเรียน ศึกษาแนวทางการดำเนินงานทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้น และต้อง “รู้จริง” เพราะชีวิตคนมหาดไทยถูกตั้งความคาดหวังสูงในสายตาพี่น้องประชาชน “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชนให้ได้ ด้วย “Passion” ที่จะทำเพื่อประชาชนตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้ามาสู่รั้วของกระทรวงมหาดไทย


“ในฐานะที่เราเป็นผู้นำของจังหวัดจำเป็นต้องเข้าใจบริบทของการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ดูแลชีวิตประชาชนตั้งแต่ “ก่อนครรภ์มารดาจนถึงเชิงตะกอน” ทำให้แม่และเด็กได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนสมบูรณ์ตั้งก่อนคลอดและหลังคลอด อีกทั้งยังต้องได้รับการดูแลจากหมอและได้รับวัคซีนอย่างครบถ้วน ตลอดจนถึงการอยู่ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ต้องได้รับประทานอาหารที่ดี ได้รับการดูแลที่ดี และได้รับการพัฒนาการที่ดี ทำให้ทุกชุมชน/หมู่บ้านมีสิ่งแวดล้อมที่ดีในทุกมิติ สังคมก็จะเข้มแข็ง นำไปสู่การเป็น “หมู่บ้านยั่งยืน” ดังที่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ได้เคยตรัสไว้ว่า หน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยคือต้องทำให้เกิด “หมู่บ้านยั่งยืน” (Sustainable Village) ซึ่งหมู่บ้านยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้ จุดเริ่มต้นสำคัญ คือ การทำให้เกิดการรวมกลุ่มเป็นกลุ่มบ้าน และมี 4 กระบวนการไปสู่ความยั่งยืน ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร คือ ต้องร่วมพูดคุย ร่วมคิด ร่วมลงมือทำ และร่วมรับประโยชน์ นอกจากนี้ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดต้องทำให้นายอำเภอมีทีมที่เข้มแข็ง โดยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลเพื่อให้มีทีมที่เข้มแข็ง ทั้งทีมทางการ คือ ปลัดอำเภอผู้รับผิดชอบประจำตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน และทีมไม่เป็นทางการ คือ กลุ่มบ้าน และภาคีเครือข่ายทั้ง 7 ภาคีเครือข่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำภาคศาสนา ด้วยการขับเคลื่อนบทบาทพระสงฆ์ประจำตำบล “หนึ่งตำบล หนึ่งพระสงฆ์” ไปร่วมกันทำสิ่งที่ดีให้กับพี่น้องประชาชน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติม
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวในช่วงท้ายว่า ผู้นำจึงต้องทำก่อน ชาติบ้านเมืองอยู่ในมือพวกเรา การทำให้ประชาชนมีความสุขและประเทศชาติมีความยั่งยืน ต้องทำให้ 3 สถาบันหลักของชาติ คือ “ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์” มีความเข้มแข็งและมั่นคง ซึ่งพวกเราทุกคน จะไปช่วยกันทำสิ่งที่ดี “Change for Good” ทำหน้าข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปขบคิดว่าจังหวัดของเราจะมีเป้าหมายการทำงานร่วมกันในทุกภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน คือ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ดังพระราชปณิธานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มุ่งหมายให้ประเทศชาติเข้มแข็งและมั่นคง และจงตระหนักว่าพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สามารถนำไปใช้ “สืบสาน รักษา และต่อยอด” เพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีในพื้นที่ของเรา ชีวิตของคนไทยจะดีมีความมั่นคงในชีวิตได้ต้องมีการดำรงชีวิตอยู่แบบ “หมู่บ้านยั่งยืน” ที่มีความมั่นคงทางอาหาร มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน คนในชุมชนมีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดีผู้ว่าราชการจังหวัดทุกท่านจะทำให้ทุกสิ่งดังกล่าวเป็นจริงได้ด้วยมือและลูกมือของท่าน และจะเกิดขึ้นคงอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน


ภาพ-ข่าว : ประชาสัมพันธ์จังหวัดกำแพงเพชร
เรียบเรียง : ธนพัฒน์ จันทรังษี
Graphic Design : ธนพัฒน์ จันทรังษี
ตรวจทาน : ชัยพันธ์ ศรีคชไกร





