ความลับยายทวดอายุยืน 101 ปี กินฝรั่งกับไข่ต้มทุกวัน

ที่บ้านเลขที่ 136 หมู่ 21 บ้านทุ่งแก้วนาขวัญ ต.คลองลานพัฒนา อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร เป็นบ้านที่อยู่อาศัยของ ยายแก้ว แกมขุดทด อายุ 101 ปี โดยยายแก้วเกิดเมื่อปี พ.ศ.2466 ยายแก้ว เล่าด้วยความทรงจำที่ดีเลิศว่าเกิดที่ อ.ด่านขุดทด จ.นครราชสีมา เดิมที่บ้านมีฐานะร่ำรวย มีที่ดินนับร้อยไร่ มีคนงานหลายคน แต่งงานกับตาบงค์ เพราะถูกตาบงค์จับมือจึงต้องแต่งงานด้วย จากนั้นก็ย้ายครอบครัวอยู่ที่ จ.กำแพงเพชร มีลูกด้วยกัน 10 คน ปัจจุบันยังมีชีวิตเหลืออยู่ 3 คน ส่วนการถือศีลนั้นยายแก้วใส่ชุดขาวเข้าวัดถือศีลมานานหลายสิบปี และยังรักษาศีลบริสุทธิผู้ชายแตะเนื้อต้องตัวไม่ได้ และรับประทานมังสวิรัติ


ส่วนอาหารที่รับประทานทุกวันคือตำฝรั่งใส่เกลือ ตำไข่ต้ม รับประทานกับข้าวเปล่า ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ เพราะได้กลิ่นแล้วเหม็นคาวรับประทานไม่ได้ ก่อนกินข้าวต้องสวดยะถาสัพพี และหลังจากที่รับประทานอาหารแล้วต้องสวดให้พรแบบพระที่สวดให้พรทุกครั้ง ส่วนด้านสุขภาพยายแก้วบอกว่าตั้งแต่เกิดมาเพิ่งเข้าโรงพยาบาลเพียงครั้งเดียว ตอนที่อยู่โคราชเพราะลูกตายในครรภ์ แต่หลังจากนั้นยังไม่เคยเจ้าโรงพยาบาลอีกเลยแม้แต่ครั้งเดียว


ยายแก้ว เป็นคนชราที่มีอารมณ์ดีมาก ยังสามารถร้องเพลงในสมัยก่อนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเพลงชาติซึ่งสมัยนั้นเรียกว่าสยาม โดยยายแก้วยังได้ร้องให้ฟัง นอกจากนั้นยังร้องเพลงที่เกี่ยวกับทหารโดยสมัยนั้นชาวบ้านเรียกทหารว่าสายเลือด และยังลุกขึ้นมาทำท่าเดินแบบสวนสนามให้ดูด้วย ส่วนเพลงรำวงสนุกๆยายแก้วก็ร้องให้ฟังพร้อมกับปรบมือให้จังหวะตามเนื้อเพลงไปด้วย รวมทั้งการท่อง อักษร ก.ไก่ ข.ไข่ในสมัยก่อนให้ฟังอย่างคล่องแคล่ว ยายแก้วเล่าติดตลกว่าเมื่อก่อนชื่อนกแก้วเพราะตนเด็กๆ พ่อเอานกแก้วมาเลี้ยง จึงตั้งชื่อของยายว่านกแก้ว แต่ต่อมาไม่รู้ทางราชการทำอย่างไรคำว่านกบินหายไปจึงเหลือแต่แก้วคำเดียวเท่านั้น


ส่วนสายตาที่ไม่ต้องใส่แว่นยังสามารถอ่านหนังสือตัวขนาดเล็กๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว โดยได้อ่านหนังสือในโล่รางวัลที่ได้รับจากสมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี “ขอประกาศเกียรติคุณเพื่อแสดงว่า นางแก้ว แกมขุนทด อายุ 100 ปีขึ้นไป เป็นผู้ที่รักษาสุขภาพและพลานามัยอย่างดียิ่งควรแก่การยกย่อง และเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้สูงอายุโดยทั่วไป สมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย จึงได้มอบโล่เกียรติคุณ เพื่อเป็นมิ่งขวัญแก่วงศ์สกุลสืบไป ให้ไว้ ณ วันที่ 13 เมษายน 2566”



ข่าว-ภาพ : เสรี อารยะสัมพันธ์
เรียบเรียง : ธนพัฒน์ จันทรังษี
Graphic Design : ธนพัฒน์ จันทรังษี
ตรวจทาน : ชัยพันธ์ ศรีคชไกร





