ถูกกำนันทำร้ายปอดแตก สองฝ่ายพูดกันคนละเรื่อง! เดียวกัน

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 16 เมษายน 2566 ที่ตึกศัลยกรรมอุบัติเหตุ ภายในห้องผู้ป่วยวิกฤติ โรงพยาบาลกำแพงเพชร กลุ่มญาติของนายกรุง ใจดี อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139/1 หมู่ 9 ต.วังตะแบก อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร ได้เดินทางมาดูอาการของนายกรุง เนื่องจากถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยนางสุภัทรา พันสวัสดิ์ อายุ 48 ปี ภรรยาของกรุงเปิดเผยว่า แพทย์ระบุว่าที่ศีรษะกับใบหน้ามีแผลแตกต้องเย็บเกือบ 20 เข็ม ตาทั้ง 2 ข้างบวมจนปิด ส่วนอวัยวะภายในถูกทำร้ายจนปอดแตกอาการสาหัส ญาติๆบอกแพทย์ต้องให้นอนรักษาตัวยังไม่ได้กำหนดว่าจะสามารถกลับบ้านได้เมื่อไหร่ โดยเหตุเกิดที่หน้าบ้านกำนันดง คำเผือก ช่วงเวลาประมาณ 5 โมงเย็นของวันที่ 14 เมษายน 2566
โดยนางนรีรัตน์ บุญเล็ก อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/2 หมู่ 9 ต.วังตะแบก อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นพี่สาวของผู้ได้รับบาดเจ็บเปิดเผยว่า นายกรุงน้องชายถูก นายดง คำเผือก ซึ่งเป็นกำนันในพื้นที่กับพวกรวม 3 คนรุมทำร้าย ซึ่งในคลิปที่ถ่ายไว้จะเห็นว่านายกรุง ถูกรุมทำร้ายขนาดล้มลงกับพื้นยังเตะและกระทืบซ้ำอีก และนายกำนันดงใช้อาวุธตบที่ศีรษะจนแตกยับ มิหนำซ้ำยิงปืนอีกหลายนัด โดยนายกรุง ถูกทำร้ายจนสลบคาที่ ญาติๆจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลอำเภอพรานกระต่าย ต่อมาแพทย์เห็นว่าอาการสาหัสจึงส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร หลังเกิดเหตุแล้วกำนันยังโพสข้อความในไลน์ว่า ดาหน้าเข้ามาเลยไอ้ใต้ถุน และอีกข้อความโพสว่า เจ๋งก็กลับบ้านไอ้ลูกหมา ซึ่งต่อมากำนันได้ลบโพสนั้นทิ้ง แต่ทางญาติของผู้บาดเจ็บแคปไว้ได้ก่อน

ทางด้าน ด.ช.การ์ด (นามสมุติ) อายุ 9 ขวบ ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่านายกรุงถูกกลุ่มของกำนันดงรุมทำร้ายตีด้วยขวดเหล้าขวดโซดาและเก้าอี้ และเห็นกำนันดงใช้อาวุธตบที่ศีรษะของนายกรุงด้วย นอกจากนั้นยังยิงปืนขึ้นฟ้าไปอีกหลายนัด จนนายกรุงล้มลงจึงถูกรุมเตะและกระทืบด้วย
ทางด้านนายสันติชัย บุญเล็ก ซึ่งเป็นหลานของผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า เห็นนายกรุงถูกทำร้ายจึงวิ่งไปดูเพื่อห้ามปราม พบว่านายกรุงถูกรุมทำร้ายถูกตีด้วยขวด เก้าอี้และยังถูกกำนันตบด้วยปืนอีก จึงพานายกรุงกลับบ้านแต่นายกรุงกลับไปอีกครั้ง คราวนี้ถูกรุมยำสลบคาที่
ทางด้านนายคำรณ ข้างเคียง อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 หมู่ 6 ต.วังตะแบก อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นเพื่อนของนายกรุง เปิดเผยว่าครั้งแรกที่มีเรื่องกันเกิดในวัด แต่ได้ช่วยกันห้ามปรามไว้ จากนั้นตนได้พานายกรุงกลับมากินเหล้ากันที่บ้านเพื่อนจนเย็นจึงพานายกรุงไปส่งที่บ้าน แต่บ้านนายกรุงกับบ้านกำนันอยู่ใกล้กันและต้องผ่านบ้านกำนันด้วย ขณะที่ตนขับขี่รถจักรยานยนต์จะไปส่งนายกรุง กำนันได้ถือเก้าอี้ออกมายืนขวางและจะตี ตนจึงห้ามปรามไว้แต่ไม่มีใครฟังนายกรุงจึงโดนรุมทำร้าย ถูกตีด้วยขวดและถูกกำนันตบด้วยปืนบาดเจ็บ กำนันยังยิงปืนลงดินด้วย ตนจึงนำตัวนายกรุงไปส่งบ้านแล้วตนก็กลับ มาทราบอีกครั้งว่านายกรุงกลับไปที่บ้านกำนันจนโดนรุมทำร้ายบาดเจ็บสาหัส และได้ยินเสียงดังขึ้นอีกหลายนัดซึ่งตอนนั้นตนไม่เห็นเหตุการณ์แล้ว


ทางด้านนายดง คำเผือก กำนันตำบลวังตะแบก เปิดเผยว่า ตนและหลานๆไปเที่ยวที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งหลานได้พาแฟนไปสวัสดีเพื่อนๆ แต่กลับโดนคู่กรณีที่อยู่บนรถปิ๊กอัพเตะเข้าอย่างจัง ตนจึงเข้าไปห้าม แต่คู่กรณีกลับพูดว่า หน้าตาไม่เหมือนพ่อกูไม่กลัวหรอก ตนเองไม่อยากมีเรื่องจึงชวนหลานกลับมานั่งดื่มกินกันต่อที่บ้าน อีก 1 ชั่วโมงต่อมาคู่กรณีก็ตามมาในมือถือถุงน้ำแข็งเหล้าโซดาแล้วใช้ถุงฟาดตน ด้วยความโมโหจึงมีการชกต่อยกันขึ้น แต่ตนอายุมากแล้วสู้ไม่ไหว หลานๆเห็นจึงเข้ามาช่วย จากนั่นก็แยกย้ายกันไป จนคู่กรณีกลับมาท้าทายชกต่อย กันตัวต่อตัวกับหลานตน โดยญาติฝั่งคู่กรณีบอกว่า ปล่อยให้ตัวต่อตัวกันไปเลยจะได้จบเรื่อง ก็ดังภาพที่ปรากฏในคลิปดังกล่าว แล้วจากนั้นก็แยกย้ายจบกันไป พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ใช้ปืนตบและไม่ได้ยิงปืนด้วย


นายยอดชาย เวียงระวัง เปิดเผยว่า คู่กรณีเดินมาจากบ้านพร้อมญาติพี่น้อง แล้วก็เกิดการชกต่อยขึ้น ซึ่งตนเองยืนยันว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรเลย เหตุที่เกิดขึ้นเริ่มมาจากที่วัด ซึ่งตนได้พาแฟนไปทำความรู้จักกับเพื่อนๆ แต่ก็ไม่ได้ทักทายกับคู่กรณีแต่อย่างใด คาดว่าคู่กรณีน่าจะเกิดความไม่พอใจที่ตนไม่พาแฟนไปแนะนำ ให้รู้จัก จากนั้นคู่กรณีก็ลุกขึ้นยืนบนรถปิ๊กอัพ เตะเข้าที่ใบหน้าของตน จากนั้นเมื่อตอนกลับมาที่บ้านคู่กรณีก็ยังตามมาหาเรื่องจนเป็นภาพตามที่ปรากฏในคลิปดังกล่าว

ร.ต.อ.วิโรจน์ กันทะมาลา พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเปิดเผยว่า ตนเพิ่งย้ายมาดำรงตำแหน่ง ดังนั้นจึงไม่รู้จักใคร เรื่องที่เกิดขึ้นทางตำรวจได้รับแจ้งความไว้แล้ว ต้องรอใบรับรองจากแพทย์ว่าอาการสาหัสหรือไม่อย่างไร เมื่อได้ใบรับรองแพทย์มาแล้วก็จะได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อไป ในเบื้องต้นได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ว่าคนที่รุมทำร้ายประกอบด้วยนายธีระศักดิ์ เวียงระวัง นายยอดชาย เวียงระวังและนายดง คำเผือก ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ

